
Uncategorized
รวบ “น้องแอลดา” คาห้องส้วม ลวงนักธุรกิจบรรเลงเพลงรัก 5 เพลงรวด กวาดทรัพย์เกลี้ยง
บุกรวบ “น้องแอลดา” คาห้องส้วม ลวงนักธุรกิจบรรเลงเพลงรัก 5 เพลงรวด กวาดทรัพย์เกลี้ยง-แบล็คเมล์ อ้างเจ็บไม่ได้ทิป ตำรวจคุมตัวดำเนินคดี
วันที่ 30 ส.ค.2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “แอลดา” อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.793/2566 ลงวันที่ 29 ส.ค.2566

บุกรวบ “น้องแอลดา” คาห้องส้วม ลวงนักธุรกิจบรรเลงเพลงรัก 5 เพลงรวด กวาดทรัพย์เกลี้ยง-แบล็คเมล์
ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด” ภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาจะออกอุบายชวนให้นักท่องเที่ยวที่กำลังหาที่ระบายเพลงรัก ล่าสุดนักธุรกิจชาวเดนมาร์ก อายุ 78 ปี เผลอใจตกเป็นเหยื่อของสาวสองรายนี้ โดยเริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายเข้ามาท่องเที่ยวเพียงลำพังในประเทศไทย ช่วงค่ำวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายรู้จักผ่านแอปพลิเคชั่นหาเพื่อน จึงนัดพบกับผู้ต้องหารายนี้ที่ดาดฟ้าของโรงแรมชื่อดังย่านสุขุมวิท

หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกได้เพียง 1 ชั่วโมง ทั้งสองจูงมือเข้าห้องพักใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งผู้เสียหายสลบไป ผู้ต้องหาได้ลงมือกวาดทรัพย์สินของผู้เสียหายไปหมดทั้ง โทรศัพท์มือถือ เงินสด บัตรเครดิต มูลค่ากว่า 40,000 บาท เมื่อผู้เสียหายตื่นมาเหลือเพียงเสื้อผ้าไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

แถมผู้ต้องหายังส่งข้อความมาไถเงินอีกกว่า 35,000 บาท หวังแบล็คเมล์ผู้เสียหายเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ แต่ผู้เสียหายไม่กลัว และเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และยังได้ขอความช่วยเหลือมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB” ให้ช่วยติดตาม

จากการตรวจสอบผู้เสียหาย พบเป็นชาวต่างชาติ ชื่นชอบเมืองไทยมาเป็นเวลากว่า 8 ปี เรื่องนี้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงเร่งส่งชุดสืบนครบาล และสืบ111 ติดตามซึ่งได้รับความร่วมมือจากโรงแรมที่เกิดเหตุเป็นอย่างดี กระทั่งนำกำลังจับตัวได้ที่บ้านพักดังกล่าว ขณะกำลังถ่ายหนักอยู่ในห้องน้ำ จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า มีประวัติเคยก่อเหตุยักยอกเงินของนายจ้างเมื่อปี 2563 พื้นที่ สน.โชคชัย

สอบสวน นายสิทธิ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งยังไม่ได้แปลงเพศ และจะชอบนัดหลับนอนกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง โดยที่เป็นคดีนี้ตนรู้จักกับเหยื่อได้เพียง 1 วัน จากนั้นได้นัดหมายให้ไปเจอกันเพื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยมีเพศสัมพันธ์กัน 5 ครั้ง ซึ่งตนรู้สึกเจ็บทวารแต่ไม่ได้เงินทิป จึงเกิดอารมณ์โมโห

นายสิทธิ์ ให้การต่อว่า กระทั่งเหยื่อหลับสนิท ตนจึงตัดสินใจลงมือขโมยทรัพย์สิน โดยเอาเงินสด, โทรศัพท์ และบัตรเครดิต ของเหยื่อไป หลังจากนั้นได้นำบัตรเครดิตไปรูดซื้อโน๊ตบุ๊ก ส่วนโทรศัพท์ได้นำไปขายต่อให้กับคนรู้จักย่านดินแดง โดยตอนนี้สำนึกและขอโทษที่ทำให้ประเทศชาติเสียชื่อเสียง จะให้ความร่วมมือ