
Uncategorized
เปิดชีวิตล่าสุด กันตา นาดาว ในวัย51ปี
ชีวิตพลิกจากนางเอกสู่พนักงานออฟฟิศ ล่าสุด กันตา นาดาว ยังคงสวยไม่สร่างในวัย 51 ปี
จากวันแรกที่ถูกจำกัดความว่าเป็น “นางเอก”เธอคือสาวลูกครึ่งที่แฟนละครต่างหลงรัก ด้วยแววตากลมโต แสนน่ารัก คนรู้จักในชื่อ “เจ้าแม่ละครเย็น”

25 ปีผ่านไป ‘วิกกี้ กันตา ดานาว’ โลดแล่นเปลี่ยนผ่านความขึ้น-ลงของชีวิต จากคนที่ใครๆก็รู้จักที่ไม่เคยจะต้องยึดติด หันเหสู่ชีวิตงานประจำที่ถูกจำกัดในเรื่องของเวลา

“ละครเรื่อแรกคือ “ทิวาหวาม” เป็นงานแสดงเรื่องแรกในชีวิต แล้วก็จะต้องเป็นนางเอกด้วย ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีประสบการณ์ด้านการแสดงเลย รู้สึกกดดัน และก็ตื่นเต้นมาก

เราพึ่งจะอายุเพียงแค่ 16 ยังเรียนหนังสืออยู่ พอเข้ากองละครก็จะเกรงใจทุกคนในกองถ่าย เป็นเราใหม่มากกับงานแสดง กลัวว่าจะทำให้นักแสดง แล้วก็ทีมงานคนอื่นเสียเวลา

แต่ว่าโชคดีมากที่ทุกคนให้คำแนะนำ คอยสอน และก็รู้เรื่องเราเป็นอย่างดี พอผ่านพ้นมาได้ ก็มีความรู้สึกว่าการแสดงสนุกดี ไม่ได้ยากอย่างที่เรากลัว ถือได้ว่าจุดเริ่มต้นที่ดี ได้มีงานละครต่อเนื่องมาเรื่อย

ยุคก่อนคือการมีความรักของนักแสดงควรจะเป็นเรื่องปิดบัง บอกใครไม่ได้ แต่ว่าของ ‘วิกกี้’ กับสามี ‘ภากร กสิโสภา’ แตกต่างจากคนอื่นๆค่ะ คือ ‘วิกกี้’ ประกาศเองเลยว่ามีแฟน

และก็พอพูดว่าจะแต่งงาน เขาก็ไม่ตื่นเต้นกันแล้ว เพราะว่าเราประกาศทุกสิ่งทุกอย่างเองตั้งแต่ต้น รวมทั้งเรื่องตั้งท้องด้วย บางทีอาจด้วยเราเป็นคนตรงๆเป็นคิดว่าถ้าหากทุกคนรับได้ก็รับ

แต่ว่าถ้ารับไม่ได้เราก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกของเราไปจ้ะ เป็นสมัยก่อนเข้าวงการตั้งแต่อายุ 16 ทำงานทุกๆวัน ทุกวันจริงๆช่วงกลางวันกลางคืนทุกๆวัน ไม่เคยได้พัก

พอเรามีตรงนี้เรามีความคิดว่าพร้อมแล้วบางครั้งอาจจะเป็นผู้ใหญ่เกินความสามารถด้วย ตั้งครรภ์ตอนอายุ 21 ตอนมีลูกและ 22 หลังจากนั้นก็เริ่มหายจากวงการ สิ่งที่ชอบมากมายที่ตัดสินใจถูก

พัฒนาการของเราครั้งแรกเราได้เห็น เราได้เจอ ก้าวแรก มองแรก คว่ำแรก หงายแรก ความเคลื่อนไหวของเขาหนแรกเราได้สัมผัสประสบการณ์ที่หากเราฝากคนอื่นเลี้ยงเราจะไม่ได้

พอมันผ่านนั่นมันเรียกกลับมาไม่ได้ มีตอนนึงมีผู้ใหญ่ที่สนิทกับสามีเขามีความคิดว่าลูกโตแล้ว แล้วเขาก็รู้ว่าเมื่อก่อนเราทำงานอะไร ไม่ควรอยู่เฉยๆจะต้องทำงาน

เขาก็เป็นจุดเปลี่ยน เขาก็แนะนำติดต่อประสานทุกสิ่งว่าต้องมาทำงานตรงนี้ ปัจจุบันนี้ทำงานอยู่ที่ ‘คิง เพาเวอร์’ ช่วงที่ทำแรกๆก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

เป็นไม่เกี่ยวกับองค์กรนะ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่วงการบันเทิงมา วงการบันเทิงสอนให้เรามีวินัยตรงต่อเวลา ซึ่งเราซึมซับตรงนั้นมา แต่ว่าการที่เราต้องอยู่ในกรอบ

วิ่งไปตอกบัตรที่ทำงานมันเป็นอะไรที่ไม่ง่าย คือมันไม่ชินเนื่องจากทั้งชีวิตไม่เคยพบอะไรอย่างนั้น เหมือนเราอยู่ในโซนของเราจะต้องเปลี่ยนชีวิตตามสถานการณ์ไป”

ซึ่งปัจจุบันนี้ ปัจจุบันนี้กลายเป็นแม่ลูก 2 จะมีลูกชายหน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้หนุ่มๆในวงการบันเทิง อย่าง ‘หนุ่มนิกกี้ ภูรินทร์’ แล้วก็ ‘หนุ่มไมค์กี้ คณิน’ นั่นเอง
